ภาษา :
“ทำงานประจำเงินเดือนน้อย อีกนานกว่าจะรวย
ลาออกไปทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองเลยดีมั้ย”
“แต่จะทำธุรกิจอะไรดี สินค้าและบริการต่างๆ ก็มีคน
ทำเยอะแยะไปหมดแล้ว เราจะไปสู้เจ้าตลาดได้ยังไง”
“ถ้าลาออกมาทำธุรกิจแล้วไม่สำเร็จล่ะ งานประจำก็ไม่มี
ธุรกิจก็ล้มเหลว แล้วจะเอาเงินจากไหนมากินมาใช้ล่ะ”
การเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นมีข้อดีที่หลายคนต้องอิจฉาก็คือ รายได้ที่สม่ำเสมอ ในแต่ละเดือน แถมบางคนยังได้รับโบนัสก้อนโตทุกๆ สิ้นปีอีกด้วย แหล่งรายได้นี้ นับเป็นหลักประกันสำคัญให้กับชีวิตได้อย่างดี ในขณะที่คนทำงานฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจต้องรับความเสี่ยงเรื่องรายได้ที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้แล้ว มนุษย์เงินเดือนยังมีเวลาหลังเลิกงาน มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งสามารถ นำเวลาที่มีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตได้
ทำไมไม่ลองเอาเวลาว่างมาทำตาม
“5 ช่องทางสร้างรายได้เสริม” ดังนี้
นำมาสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดเป็นอาชีพเสริม เช่น
เริ่มจากกิจกรรมเล็กๆ ที่ไม่ต้องลงทุน
มาก ขอให้เป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข
แม้ไม่ได้เงินในช่วงแรกก็รู้สึกยังอยาก
ทำต่อ แล้วพอเริ่มมีรายได้เข้ามาและ
สินค้าเริ่มเป็นที่รู้จักค่อย
ขยับขยายกิจการตามกำลัง
ของตนเอง ที่สำคัญ
คือต้องไม่ให้กระทบ
กับงานประจำเพราะ
ยังคงเป็นแหล่ง
รายได้หลักอยู่
เมื่อสร้างสินค้าขึ้นมาแล้วก็ต้องลองนำไปขาย
และเรียนรู้ตลาดว่า จริงๆ แล้วลูกค้าเป็นกลุ่ม
เป้าหมายที่ตรงกับที่คิดไว้หรือไม่ อยู่ที่ไหน
ยินดีจะซื้อสินค้าแบบนี้ด้วยราคา
เท่าไหร่ซื้อผ่านช่องทางไหน
เพื่อกำหนดเป็นแนวทาง
การตลาด ที่เหมาะสม
เช่น ผลิตเสื้อผ้าเด็ก
แฮนเมด ขายให้กับกลุ่มคุณแม่มือใหม่ที่อายุ
ไม่เกิน 35 ปี และเพิ่งมีลูกคนแรก
มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ดังนั้นสินค้าไม่ควร
ตั้งราคาสูงมาก เพราะจะตัดสินใจซื้อได้
ง่าย โดยช่องทางการขายออนไลน์น่าจะ
สะดวกทันใจและมีต้นทุนต่ำ เป็นต้น
สร้างผลงานและปรับปรุงสินค้า ให้ตรงความต้องการมากขึ้น รวมทั้งคอยสำรวจตลาดอยู่เสมอ ว่าตอนนี้กระแสอะไรกำลังมา เพื่อให้ไม่หลุดเทรนด์ และสร้าง รายได้ได้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากสามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่รักได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่ควรนำเงินรายได้เสริมนั้น
ไปต่อยอดให้งอกเงย ด้วยการเริ่มต้นศึกษา หาความรู้เรื่องการลงทุน ในสินทรัพย์
ทางการเงินต่างๆ เช่น ตราสารหนี้
กองทุนรวม และหุ้น เพื่อสร้างโอกาส
เพิ่มผลตอบแทนเป็นรายได้เสริม อีกทางหนึ่ง แต่ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ก่อนจะเริ่มลงทุนต้อง
รู้ตัวว่ารับความเสี่ยงได้แค่ไหน เพื่อจะได้เลือกช่องทางการลงทุนให้เหมาะกับตนเอง
ครั้งที่แล้ว เราพูดกันถึงเรื่อง การลงทุนแบบ 3 เด้ง คือ การลงทุนที่เมื่อเราลงทุนแล้ว เด้งแรกที่ได้รับ คือ
เรียนรู้การลงทุนเพื่อมีชีวิตที่ดี ได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรียนรู้เรื่องการเงินและการลงทุน ผ่านระบบ e-Learning ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยสื่อมัลติมีเดียที่สอดคล้องกั
ไม่ว่าจะเป็นคลิปเรื่องวางแผนการเงินการลงทุน บทสัมภาษณ์พิเศษจากเหล่ากูรูในแวดวงตลาดทุน
ในวันอังคารที่ 12 มกราคม 2559 ตั้งแต่เวลา 17.30-19.00 น. ณ ห้องสมุดมารวย
ลงทุนในหุ้นดีอย่างไรนะ? หลายคนคงเคยมีคำถามนี้ อยู่ในใจ เพราะที่ผู้ลงทุนหลายคนลังเลที่จะลงทุน