ภาษา :
“การลงทุนในกองทุนรวม LTF และ RMF
หากไม่วางแผนให้ดี ก็มีสิทธิเสีย
โอกาสทางภาษี
แถมยังอาจขาดทุนจากการตัดสินใจลงทุนผิดจังหวะเวลาได้ด้วยเช่นกัน”
นักลงทุนมือใหม่จำนวนมากยังอยู่ในวัยเพิ่งเริ่มทำงานไม่นาน ยังไม่เคย วางแผนภาษีและไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนภายใต้ความผันผวนของ ตลาดหุ้น อาจจะพยายามหากลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อประหยัดภาษี ด้วยการติดตามสถิติการลงทุนว่าควรนำเงินไปลงทุนในช่วงไหนถึงจะได้ ราคาหน่วยลงทุนที่ถูกที่สุด แต่อันที่จริงแล้วหากเราไปดูสถิติย้อนหลังของ ราคาหุ้นและกองทุนรวมในตลาดหลักทรัพย์ฯ คงไม่มีใครคาดเดาอนาคตได้ ถูกต้องเสมออยู่แล้ว บางปีซื้อต้นปีถูกกว่า บางปีราคาต่ำที่สุดก็อยู่ตรง กลางปีได้เหมือนกัน
เมื่อนักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าจะลงทุนด้วยกลยุทธ์อย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดในการวางแผนภาษีพร้อมๆ กับการเปลี่ยนเงินออม เป็นเงินลงทุนนั้น ก็เริ่มทำได้จากการวางแผนกันเป็นรายเดือนและทยอยลงทุนอย่างมีวินัยเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
ด้วย “3 ขั้นตอนลงทุน
ใน LTF/RMF ให้คุ้มค่า” ดังนี้
หากเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สม่ำเสมอจะเป็น เรื่องง่าย เพราะทราบฐานเงินเดือนที่แน่นอน ส่วนอาชีพ อื่นๆ ที่ไม่มีรายได้ที่แน่นอน เช่น ฟรีแลนซ์ ก็อาจจะใช้วิธี ประมาณการรายได้จากปีก่อนหน้าและวางแผนเพิ่มเติม เมื่อเห็นว่ามีรายได้มากขึ้น
เมื่อเราคำนวณรายได้ในเบื้องต้นแล้วก็จะรู้ว่า เมื่อมีการหักค่าใช้จ่ายและการลดหย่อนภาษีพื้นฐานแล้ว จะเหลือเงินได้สุทธิ ที่ใช้ในการคำนวณภาษีเท่าไหร่ ให้เราลองคำนวณดูว่า จะจัดสรรเงินจำนวนเท่าไหร่ไปใช้ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม โดยปกติแล้ว เราสามารถซื้อกองทุนรวม LTF และ RMF ได้อย่างละไม่เกิน 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ที่สำคัญคือ อย่าซื้อเกินสิทธิ เพราะจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แถมยังต้องจ่ายภาษีในส่วนกำไรของจำนวนที่เกินอีกด้วย
เมื่อเราคำนวณเงินที่จะนำไปลดหย่อนภาษีได้แล้ว ก็เริ่มต้นทยอยลงทุนในจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละเดือน วิธีนี้เรียกว่า การลงทุนแบบ Dollar Cost Averaging (DCA) เพื่อเป็นการถั่วเฉลี่ยต้นทุนและช่วยสร้างวินัยในการลงทุนได้ด้วย เช่น เมื่อเงินเดือนออก ก็กำหนดให้ธนาคารหักเงิน 10,000 บาท ไปซื้อ LTF และ RMF ให้โดยอัตโนมัติ ทุกวันที่ 1 ของเดือน โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงราคาเคลื่อนไหวของกองทุนรวม
ตัวอย่างการลงทุนแบบ DCA
ในตารางข้างล่างนี้จะเห็นได้ว่า ตลอดทั้งปีราคากองทุนรวมมีการปรับตัว ขึ้นลงตลอด ซึ่งหากเราทยอยซื้อทุกเดือนก็จะทำให้ต้นทุนราคาเฉลี่ยถูก กว่าเก็บเงินซื้อเป็นก้อนในบางเดือนได้ แถมยังไม่ต้องคอยจับจังหวะการ ลงทุนให้ยุ่งยาก เมื่อราคากองทุนรวมลดลงเราก็จะได้จำนวนหน่วยลงทุน ที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันเมื่อราคากองทุนรวมเพิ่มขึ้น เราก็จะมีความ มั่งคั่งมากขึ้นนั่นเอง
ครั้งที่แล้ว เราพูดกันถึงเรื่อง การลงทุนแบบ 3 เด้ง คือ การลงทุนที่เมื่อเราลงทุนแล้ว เด้งแรกที่ได้รับ คือ
เรียนรู้การลงทุนเพื่อมีชีวิตที่ดี ได้ที่ห้องสมุดมารวย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรียนรู้เรื่องการเงินและการลงทุน ผ่านระบบ e-Learning ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยสื่อมัลติมีเดียที่สอดคล้องกั
ไม่ว่าจะเป็นคลิปเรื่องวางแผนการเงินการลงทุน บทสัมภาษณ์พิเศษจากเหล่ากูรูในแวดวงตลาดทุน
ในวันอังคารที่ 12 มกราคม 2559 ตั้งแต่เวลา 17.30-19.00 น. ณ ห้องสมุดมารวย
ลงทุนในหุ้นดีอย่างไรนะ? หลายคนคงเคยมีคำถามนี้ อยู่ในใจ เพราะที่ผู้ลงทุนหลายคนลังเลที่จะลงทุน